The Development of Lanna Digital Archives: A Case Study of Chiang Mai Province

การพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลล้านนา: กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูล ความรู้ ภูมิปัญญาในด้านต่าง ๆ ของล้านนา และพัฒนาเป็นข้อมูลรูปแบบดิจิทัล รวมถึงเพื่อจัดทำคลังข้อมูลดิจิทัลล้านนา ผู้ให้ข้อมูลหลัก ประกอบด้วยบุคคลที่มีความรู้ มีความเข้าใจ หรือมีข้อมูลล้านนาคดี กลุ่มเป้าหมายคือ บุคคลที่สนใจเข้าเยี่ยมชมคลังข้อมูลดิจิทัลเชียงใหม่ เครื่องมือการรวบรวมข้อมูลความรู้ภูมิปัญญาล้านนาประกอบด้วยกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีทัศน์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) และแบบสัมภาษณ์ เครื่องมือการประเมินคลังข้อมูลดิจิทัล ประกอบด้วยคลังข้อมูลดิจิทัลเชียงใหม่ และแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลความรู้ภูมิปัญญาล้านนาโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) วิเคราะห์ข้อมูลการประเมินคลังข้อมูลดิจิทัล โดยการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

ข้อมูลความรู้และภูมิปัญญาของล้านนา รวบรวมได้ทั้งหมด 60 ข้อมูล ได้แก่ ด้านโบราณสถาน 33 ข้อมูล ด้านโบราณวัตถุ 15 ข้อมูล และด้านประเพณี ศิลปวัฒนธรรม 12 ข้อมูล โดยพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลเทคโนโลยีอยู่ 3 ประเภทคือ ภาพถ่าย วิดีทัศน์ และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ส่วนคลังข้อมูลดิจิทัลล้านนา จัดทำในรูปแบบเว็บไซต์ (Responsive Website) ชื่อ “คลังข้อมูลดิจิทัลเชียงใหม่” เขียนด้วยภาษา HTML, CSS, PHP, SQL และ JavaScript สามารถเชื่อมต่อปลั๊กอิน Google Map API และ Upload รูปภาพแกลอรี โดยเก็บภาพไว้ใน Database รวมถึงการพัฒนาแผนที่ การกำหนดรูปแบบการแสดง สี กรอบ ขนาด พื้นหลัง เส้น ตัวอักษรขนาดต่าง ๆ โดยมีโครงสร้างของโปรแกรมการใช้งานที่สำคัญคือ ระบบแผนที่นำทาง ระบบค้นหาตามหมวด ระบบค้นหาตามภาพ และระบบแสดงข้อมูลตามหมวดหมู่

การประเมินการใช้คลังข้อมูลดิจิทัลล้านนา “คลังข้อมูลดิจิทัลเชียงใหม่” พบว่า ด้านการออกแบบและจัดรูปแบบของคลังข้อมูลดิจิทัลโดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากใน 3 อันดับแรก คือ การเลือกใช้สื่อมัลติมิเดียเหมาะสมกับเนื้อหารองลงมาคือ การเลือกใช้ภาพประกอบสามารถสื่อความหมายได้ดี และการออกแบบรูปแบบง่ายต่อการอ่านและการใช้งาน ส่วนด้านเนื้อหาของคลังข้อมูลดิจิทัลโดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.31 โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากใน 3 อันดับแรก คือ การจัดหมวดหมู่เนื้อหาง่ายต่อการค้นหาและเรียนรู้ รองลงมาคือ การจัดลำดับเนื้อหาเป็นขั้นตอน มีความต่อเนื่อง และความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังข้อมูลภายนอก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *