การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา เพื่อจัดทำข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนาให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และเพื่อพัฒนาพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ปราชญ์ชาวบ้าน พระสงฆ์ และผู้นำชุมชนในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มเป้าหมายคือ บุคคลที่สนใจเข้าใช้งานพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ 2) ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพอุปกรณ์สแกนภาพ ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพมุมมอง 360° คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำหรับการลงพื้นที่ภาพสนาม 3) พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนาและแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

การสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา พบว่า มีข้อมูลของจังหวัดพะเยามากที่สุด รองลงมาคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดแพร่มีเท่ากัน และจังหวัดน่าน

การจัดทำข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนาให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ประกอบด้วยกระบวนการจัดทำข้อมูลภาพมุมมอง 360° พบว่า พิพิธภัณฑ์เวียงพยาว วัดลี มีจำนวนมากที่สุด กระบวนการจัดทำภาพถ่ายข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา และการจัดทำข้อมูลอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนาแบบหมุนได้ 360° พบว่า พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพระเกิด มีจำนวนมากที่สุด การจัดทำภาพถ่ายวัตถุโบราณ พบว่า พิพิธภัณฑ์วัดพระนอน มีจำนวนมากที่สุด

การพัฒนาพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา ใช้โปรแกรม Unity เป็นตัวกลางในการพัฒนา และใช้ภาษา C# ในการสื่อสารกับโปรแกรม มีการพัฒนาเว็บไซต์ ชื่อ “พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลล้านนา”(http://www.lanna-e-museum.com) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) และแอพพลิเคชั่น (Application for Android) สำหรับการเผยแพร่และเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา สำหรับการประเมินผลพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธุ์ในล้านนา พบว่า ด้านการออกแบบและจัดรูปแบบ โดยภาพรวมเหมาะสมในระดับมาก ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความสวยงามและน่าสนใจ ส่วนด้านเนื้อหาโดยภาพรวมเหมาะสมในระดับมาก ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การจัดลำดับเนื้อหาเป็นขั้นตอน มีความต่อเนื่อง